[ความเป็นมา]

กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมได้ยื่นเรื่องร้องเรียนผ่านกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อรัฐบาลชุดก่อน ๆ หลายรัฐบาลมาแล้ว ต่อมาทางกรรมาธิการที่ดินฯ ในขณะนั้น ได้เสนอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องสหกรณ์นิคมทั้ง 17 สหกรณ์โดยขอให้มีการจัดที่ดินในรูปแบบของ พ.ร.บ. จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 ตามที่กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมเสนอมาแต่เรื่องก็ยังไม่คืบหน้าจึงขอให้สมาชิกวุฒิสภาติดตามเรื่องให้กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมที่เรียกร้องขอกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ปู่ยาตายายได้เป็นผู้บุกเบิกที่ดินจนเป็นไร่นา

มาจนถึงเมื่อปี พ.ศ. 2507 รัฐบาลได้ประกาศพื้นที่ 14 ป่าสงวนทับที่ทำกินของพี่น้องประชาชน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ 17 สหกรณ์นิคมอยู่ฐานะผู้บุกรุกทันทีทั้ง ๆ ที่พวกเขาอยู่มาก่อนที่จะประกาศพื้นที่เป็นป่าสงวนเป็นร้อย ๆ ปีในส่วนรัฐบาลก็อ้างด้วยภาพถ่ายทางอากาศว่าสมัยนั้นเป็นป่า ประชาชนเป็นผู้บุกรุกป่าไม้ แท้ที่จริงแล้วในสมัยนั้นประชาชนทำมาหากินอยู่ในพื้นนั้นมานานเป็นร้อยปี โดยเดินทางสัญจรอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่และทำการเกษตรตามพื้นที่ว่างเปล่า ด้วยประชากรที่ยังไม่มากนัก ทำให้ภาพถ่ายทางอากาศสมัยนั้นไม่สามารถเห็นพื้นที่ทำการเกษตรได้มากนัก จะสังเกตได้ว่าในพื้นที่มีโบราณวัตถุเก่าแก ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามที่มีการจดจัดตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2379 รวมถึงการแต่งตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านการออกเลขที่บ้านที่ออกโดยภาครัฐ และเอกสารที่ดิน นส.3 ที่ออกเมื่อ พ.ศ. 2498 ล้วนแล้วแต่มีมาก่อนที่จะประกาศ พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 เสียอีก

[ข้อเท็จจริง]

ป่าไม้ได้ถูกนายทุนทำสัมปทานหรือลักลอบตัดนำต้นไม้ใหญ่ออกไปขายจนหมดสิ้นทำให้พื้นที่โล่งเตียนจึงทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้ขยายพื้นที่ทำกินออกไปตามพื้นที่โล่งเตียนที่ต้นไม้นั้นหายไปและประชาชนส่วนหนึ่งจึงได้เคลื่อนย้ายเขามาอยู่ในพื้นที่ตามเส้นทางชักลากไม้ก่อนที่จะมีการประกาศ พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 จะเห็นได้ว่าแม้จะมีการประกาศพื้นที่ป่าสงวนแล้วก็ยังมีนายทุนเข้ามาตัดต้นไม้จนต้นไม้ใหญ่หายหมดสิ้นพื้นที่จึงเป็นสภาพป่าเสื่อมโทรมด้วยระยะเวลาเป็นร้อยปีจึงมีการขยายประชากรในพื้นที่เพิ่มมากขึ้นทำให้พื้นที่ทำกินขยายเพิ่มมากขึ้นตามลำดับโดยพื้นที่นั้น ๆ ไม้ต้นใหญ่ ๆ ได้ถูกนายทุนลักลอบตัดโค่นไปหมดแล้วจะสังเกตได้ว่าไม้แผ่นใหญ่ ๆ สามสิบถึงหกสิบนิ้วจะไม่เห็นมีในพื้นที่หรือตามบ้านเรือนของประชาชน แต่รัฐบาลกลับตราหน้าว่าพวกเขาเป็นผู้ทำลายป่า จึงไม่ยอมให้กรรมสิทธิ์ในที่ดินของพวกเขาทั้งที่ปู่ย่าตายายได้เป็นผู้ที่ขึ้นรูปแปลงไร่นาทำการเกษตรในพื้นที่ 1.5 ล้านไร่สร้างผลผลิตเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของคนในประเทศนี้มาอย่างยาวนาน ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2517 กรมป่าไม้ได้มอบพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมที่ไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาเป็นป่าไม้ได้อีก มอบให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ใช้พื้นที่เป็นระยะเวลา 30 ปี

ตามมติ ครม. เมื่อปี พ.ศ. 2517 จัดสรรให้ประชาชนอยู่อาศัยในพื้นที่รายละไม่เกิน 50 ไร่ ตั้งแต่ พ.ศ. 2528 ถึง 2558 จัดตามรูปแบบ พ.ร.บ. จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 ทั้ง ๆ ที่ที่ดินนั้นเป็นของพวกเขามาแต่เดิม ปัจจุบันพวกเขาจึงเป็นได้แค่ผู้อาศัยที่ดินของรัฐอยู่อาศัยทำกินเท่านั้น ความหวังของประชาชนในพื้นที่ 13 นิคม 14 ป่า เมื่อพวกเขามาอยู่ก่อน ที่จะประกาศป่าสงวนและทำการเกษตรอยู่ในพื้นที่มาแล้วเป็นร้อย ๆ ปีรัฐก็ควรจะเพิกถอนสภาพป่าเสื่อมโทรมนั้น ๆ แล้วออกโฉนดที่ดินให้กับประชาชนในพื้นที่ ตามรูปแบบ พ.ร.บ. จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 ซึ่ง พ.ร.บ. ฉบับนี้ยังมิได้ถูกยกเลิกและควรจะต้องนำมาเป็นเครื่องมือนำทางให้พี่น้องสมาชิกสหกรณ์นิคมได้โฉนดที่ดินเป็นของตนเอง

[ปัญหาว่าด้วยคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)]

ความหวังของพี่น้องประชาชนได้หายไป เมื่อคณะรัฐประหารได้ยึดอำนาจและได้ออก พ.ร.บ. คทช. เมื่อ พ.ศ. 2562 เพื่อทวงคืนที่ดินจากประชาชนไปเป็นของรัฐโดยกรมป่าไม้ได้ขอให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ส่งคืนพื้นที่นิคมสหกรณ์ คืนให้กรมป่าไม้เพื่อนำที่ดินไปจัดในรูปแบบ คทช. ส่งคืนเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 โดยที่ไม่ได้ถามประชาชนและสหกรณ์เลยว่าจะยินดีที่จะจัดที่ดินในรูปแบบ คทช. หรือไม่เพราะการจัดที่ดินแบบ พ.ร.บ. จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 กับ พ.ร.บ. คทช. มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ในระเบียบของ คทช. จะจัดสรรที่ดินให้ประชาชนเช่าอยู่อาศัยทำกินไม่เกินคนละ 20 ไร่ อยู่ได้ไม่น้อยกว่าห้าปีแต่ไม่เกิน 30 ปี และต้องปลูกต้นไม้ตามเงื่อนไขของกรมป่าไม้และอยู่ภายใต้กฎหมายกรมป่าไม้ โดยไม่ให้กรรมสิทธ์เด็ดขาดซึ่งที่ดินนั้นเป็นของประชาชนแต่เดิมรัฐควรจะออกโฉนดให้กับประชาชน ซึ่งพื้นที่นิคมสหกรณ์นั้นตาม พ.ร.บ. จัดที่ดินเพื่อการคลองชีพ พ.ศ. 2511 นั้นได้ให้สิทธิครอบครองทำกินได้คนละ 50 ไร่ โดยนิคมสหกรณ์จะออก กสน.3 ห้าปี กสน.5 ห้าปี ให้สมาชิกสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์จะนำ กสน.5 นั้นไปทำการออกโฉนดกับกรมที่ดิน

จะเห็นได้ว่าได้มีการจัดสรรที่ดินให้ประชาชนทำกินมาก่อนแล้วมีการรังวัดขึ้นรูปแปลงที่ดินเกือบทั้งหมดแล้วในพื้นที่นิคมสหกรณ์ หน่วยงาน คทช. ที่จะนำที่ดินไปจัดตาม พ.ร.บ. คทช. จึงเป็นงานซ้ำซ้อนกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ทำให้รัฐเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ เพราะต้องลงพื้นที่รังวัดรายแปลงใหม่ทั้งหมดการจัดที่ดินในรูปแบบ คทช. ไม่ควรมาจัดในพื้นที่นิคมสหกรณ์เพราะเป็นพื้นที่ที่เป็นลุ่มน้ำชั้น 5 เป็นพื้นที่ราบรุ่มและมีผู้คนอยู่อาศัยจนเต็มพื้นที่ไม่สามารถฟื้นฟูให้เป็นป่าได้อีกต่อไป

patent infringement? this is not about trademark and gameplay similarities, but rather imply it's using tech owned by Nintendo /poke corp

I'm curious what it could be

IMHO software patents are illegal and they are to board and just describing a concept.

Think if we had patents for books, we would just have one crime investigating detective book.

yesterday Nintendo won their lawsuit against "pocket monster reissue" a Chinese Pokémon clone.

Guessing they were waiting for that to conclude before launching an almost inevitable strike against Palworld

I just barely finished upgrading to 40.

@fedora@fosstodon.org